เจาะลึกลักษณะของ ฟิวเจอร์ส
ฟิวเจอร์ส หมายถึง สัญญา หรือข้อตกลงระหว่างบุคคล 2 ฝ่ายคือ “ผู้ซื้อ” กับ “ผู้ขาย” ในการตกลงที่จะซื้อหรือขายสินค้า หรือสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ โดยการตกลงซื้อขายดังกล่าวเป็นการตกลง ณ วันนี้ แต่ใช้ราคาในอนาคต และการส่งมอบสินค้าก็จะ เกิดขึ้นในอนาคต ในส่วนของ สินค้าหรือสินทรัพย์อ้างอิง ที่ใช้ในการซื้อหรือขายสำหรับฟิวเจอร์สนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ |
1. สินค้าโภคภัณฑ์ หรือสินค้าเกษตร (Commodity Futures) เช่น น้ำมัน ทองคำ เหล็ก ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา กาแฟ เป็นต้น สำหรับประเทศไทยได้จัดตั้งตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) เพื่อเป็นตลาดสำหรับการซื้อขายสินค้า เกษตรล่วงหน้า ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าอยู่ 6 รายการ ได้แก่ ยางแผ่นรมควันชั้น 3, ข้าวขาว 5%, ยางแท่ง, น้ำยางข้น, แป้งมันสำปะหลัง และมันเส้น | ||
2. สินทรัพย์ทางการเงิน (Financial Futures) เช่น หุ้น พันธบัตร เงินตราต่างประเทศ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ เป็นต้น สำหรับประเทศไทย บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ได้เปิดให้มีการซื้อขายฟิวเจอร์สสินทรัพย์ทางการเงิน โดยสินค้าตัวแรกที่มีการซื้อขายคือ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ SET50 หรือที่เรียกว่า SET50 Index Futures |
SET 50 Index Futures คือ สัญญาฟิวเจอร์สประเภทหนึ่งที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงที่จะซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง คือ ดัชนี SET50 ซึ่งการตกลงซื้อขายดังกล่าวเป็นการตกลง ณ วันนี้ โดยใช้ราคา คือ ดัชนี SET50 ในอนาคต และเนื่องจากสินทรัพย์อ้างอิงที่ใช้ในการซื้อขายครั้งนี้คือดัชนี ผู้ขายจึงไม่สามารถส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ซื้อได้ ดังนั้นวิธีการส่งมอบเราจะใช้วิธีการ ชำระส่วนต่างราคา หรือ Cash Settlement แทน | ||
สถานะของฟิวเจอร์ส
Short Position เป็นสถานะของผู้ขายสัญญาฟิวเจอร์ส หรือเรียกว่าLong Position เป็นสถานะของผู้ซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส หรือเรียกว่า “ฐานะซื้อ” ตัวอย่างเช่น นักลงทุนคาดการณ์ ดัชนี SET50 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ในอีก 2 เดือนข้างหน้า นักลงทุนจึงซื้อ SET50 Index Futures เราเรียกสถานะของนักลงทุนเช่นนี้ว่า สถานะของผู้ซื้อสัญญาฟิวเจอร์ส (Long Position) “ฐานะขาย” ตัวอย่างเช่น นักลงทุนคาดการณ์ ดัชนี SET50 จะปรับตัวลดลง ในอีก 2 เดือนข้างหน้า นักลงทุนจึงขาย SET50 Index Futures เราเรียกสถานะของนักลงทุนเช่นนี้ว่า สถานะของผู้ขายสัญญาฟิวเจอร์ส (Short Position) | ||||
องค์ประกอบสำคัญของ SET50 Index Futures1. สินทรัพย์อ้างอิง คือ ดัชนี SET50 (SET50 Index) เป็นดัชนีที่คำนวณมาจากราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 50 ตัว โดยคัดเลือกมาจากหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดและสภาพคล่องสูง ซึ่งดัชนี SET50 นี้ สามารถสะท้อนภาพรวมของตลาดได้ว่าอยู่ในทิศทางใด เนื่องจากมูลค่าตลาดของหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนี SET50 มีสัดส่วนถึงร้อยละ 70 ของมูลค่าตลาดรวม 2. ราคาเสนอซื้อขาย ราคาที่ใช้ในการซื้อขาย SET50 Index Futures คือ ระดับดัชนี SET50 ตัวอย่างเช่น นักลงทุนต้องการซื้อ (ขาย) ฟิวเจอร์ส นักลงทุนต้องส่งคำสั่งซื้อ (ขาย) ผ่านโบรกเกอร์ของตลาดอนุพันธ์ โดยระบุว่าต้องการซื้อ (ขาย) ฟิวเจอร์สที่ระดับดัชนีเท่าไร เช่น ต้องการซื้อ (Long) ฟิวเจอร์สที่ 624.10 จุด หรือต้องการขาย (Short) ฟิวเจอร์สที่ 632.80 จุด เป็นต้น |
3. ช่วงห่างของราคา (Tick Size) ที่ใช้ในการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์ส คือ 0.1 ข้อควรระวัง ในการตั้งราคาซื้อขายฟิวเจอร์ส คือ หน่วยของราคาที่ละเอียดที่สุด คือ ทศนิยม 1 ตำแหน่งเท่านั้น นั่นหมายความว่านักลงทุนจะไม่สามารถสั่งซื้อ หรือ ขายดัชนีที่ลงท้ายด้วยทศนิยม 2 ตำแหน่งได้ เช่น xxx.24, xxx.87, xxx.53 เป็นต้น | |||
4. ตัวคูณดัชนี (Multiplier) เป็นตัวเลขที่ใช้ในการคำนวณมูลค่าของสัญญาฟิวเจอร์ส ให้เป็นตัวเงิน เนื่องจากดัชนี SET50 มีหน่วยเป็นจุด โดยแต่ละจุดของดัชนี SET50 ถูกกำหนดให้มีมูลค่าจุดละ 1,000 บาท ตัวอย่างเช่น ถ้านักลงทุน ขาย SET50 Index Futures ที่ราคา 617.50 จุด มูลค่าสัญญานี้จะเท่ากับ 617.50 x 1,000 หรือ 617,500 บาท 5. ช่วงการเปลี่ยนแปลงของราคาสูงสุดแต่ละวัน (Price Limit) ตลาดอนุพันธ์กำหนดให้ราคา SET50 Index Futures ที่เสนอซื้อขายกันในแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ไม่เกิน 30% จากราคาที่ได้ชำระในวันทำการก่อนหน้า ทั้งนี้ เฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาลดลงจะมีลักษณะเป็นขั้นบันได คือ เมื่อราคาลดลง 10%, 20% และ 30% ตลาดอนุพันธ์อาจหยุดดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์ |
| ||
6. เวลาซื้อขาย ช่วงเวลาการซื้อขายของ SET50 Index Futures ใกล้เคียงกับช่วงเวลา การซื้อขายของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีการแบ่งช่วงเวลาเช่นเดียวกับที่กำหนดใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่เวลาการซื้อขายของ SET50 Index Futures จะเปิดก่อนการซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ 15 นาที และปิดหลัง 15 นาที เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนปรับกลยุทธ์การลงทุน ของตน เนื่องจากการมีสถานการณ์ลงทุนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดอนุพันธ์ ซึ่งเป็นหลักสากลที่ตลาดอนุพันธ์ในประเทศอื่นๆ ใช้กัน |
|
7. อายุของสัญญา สัญญาซื้อขายฟิวเจอร์สโดยปกติจะมีการกำหนดวันสิ้นสุดอายุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งตลาดอนุพันธ์กำหนดให้วันสิ้นสุดของสัญญา คือ ทุกสิ้นไตรมาส ได้แก่ เดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคม ในแต่ละสัญญาที่สิ้นสุดทุกไตรมาสนั้นตลาดอนุพันธ์จะกำหนดวันที่สิ้นสุดของสัญญา และวันสุดท้ายของการซื้อขายเป็น วันทำการก่อนหน้าวันทำการสุดท้ายของเดือน ตัวอย่างเช่น SET50 Index Futures ที่สิ้นสุดอายุเดือนมีนาคม วันทำการสุดท้ายของเดือน คือวันที่ 31 มีนาคม วันสิ้นสุดอายุ และวันซื้อขายวันสุดท้าย คือ วันที่ 30 มีนาคม นอกจากนี้ เวลาซื้อขายจริงระบบจะใช้ตัวย่อในการซื้อขายฟิวเจอร์สแต่ละรุ่น ดังนี้ | ||
8. จำนวนสัญญาที่ผู้ลงทุนสามารถมีสถานะได้ (Position Limit) ตลาดอนุพันธ์มีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับฐานะสูงสุดที่ผู้ลงทุนแต่ละรายสามารถมีสถานะได้ไว้ดังนี้ - สถานะของการถือครองสัญญาที่ครบกำหนดส่งมอบในแต่ละเดือนต้องไม่เกิน 10,000 สัญญา - สถานะสุทธิของสัญญาทุกเดือนรวมกันก็ต้องไม่เกิน 10,000 สัญญาเช่นกัน | ||
ประโยชน์ของ SET50 Index Futures1. ประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยงสำหรับผู้ลงทุนสถาบัน ในกรณีที่ผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดอยู่ในช่วงขาลง ผู้ลงทุนอาจบริหารความเสี่ยงโดยการขายสัญญา SET50 Index Futures ก่อนที่สภาวะตลาดจะเป็นลบจริง ซึ่งหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงแล้ว นักลงทุนจะขาดทุนจากพอร์ตการลงทุน แต่จะสามารถทำกำไรจากการขายฟิวเจอร์ส ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสามารถชดเชยกัน จนไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์ไว้เท่าไรนัก ในทางกลับกันถ้าผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ผู้ลงทุนอาจซื้อ SET50 Index Futures ก่อนที่ตลาดจะเป็นบวกจริง นอกจากนี้สำหรับผู้บริหารกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่ต้องการให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับสภาวะของตลาด การลงทุนใน SET50 Index Futures จะช่วยลดภาระของการซื้อหุ้นจำนวนมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายที่สูง 2. ประโยชน์ในการซื้อขายเพื่อการลงทุนของผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการผลตอบแทนสูงจากการลงทุน และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราผลตอบแทนได้ รวมถึงเป็นผู้ที่เข้าใจลักษณะต่างๆ ของตราสารอนุพันธ์ดีแล้วก็สามารถใช้ SET50 Index Futures เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนได้ |
ตัวอย่างการใช้ SET50 Index Futures เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป ถ้าผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลง ผู้ลงทุนอาจตัดสินใจขาย SET50 Index Futures ที่ครบกำหนดในเดือน ก.ย. ที่ 620 จุด จำนวน 1 สัญญา สมมติวันถัดมา ราคา SET50 Index Futures เดือน ก.ย. ปรับตัวลดลงเป็น 595 จุด ผู้ลงทุนจะต้องปิดสถานะฟิวเจอร์สของตนโดยการตัดสินใจซื้อ SET50 Index Futures ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนกำไรเท่ากับ 25,000 บาท
แสดงวิธีการคำนวณ ดังนี้
(620 – 595) x 1,000 = 25,000 บาท | ที่มาhttp://www.tsi-thailand.org |